หลักการและเหตุผล
ชีวสารสนเทศ (Bioinformatics) เป็นศาสตร์การจัดการข้อมูลทางชีววิทยาซึ่งมีอยู่เป็นปริมาณมากเพื่อการประยุกต์ใช้ในการศึกษาด้านต่างๆ ทั้งนี้การศึกษาเกี่ยวกับชีวสารสนเทศมีจุดกำเนิดในปี พ.ศ. 2533 โดยโครงการการศึกษาจีโนมของมนุษย์ (The Human Genome Project) โดยการสนับสนุนของสำนักงานสุขภาพแห่งชาติและกรมพลังงานแห่งสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้โครงการนี้เป็นโครงการทางเทคโนโลยีทางชีวภาพที่สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญครั้งหนึ่งของมวลมนุษยชาติ โดยได้รับความร่วมมือในระดับนานาชาติเพื่อศึกษาวิเคราะห์ลำดับนิวคลีโอไทด์ในจีโนมของมนุษย์ และต่อมาได้เกิดการต่อยอดโครงการเพื่อศึกษาจีโนมในสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆ อีกหลายชนิด เช่น จีโนมข้าว จีโนมหนู จีโนมยีสต์ จีโนมของพืช Arabidopsis เป็นต้น
ในประเด็นความร่วมมือการพัฒนาการศึกษาลำดับนิวคลีโอไทด์ของสิ่งมีชีวิตนั้น ก่อให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีและวิทยาการคอมพิวเตอร์ควบคู่กันไปด้วยจนเป็นที่มาของศาสตร์แขนงใหม่ที่ผนวกความรู้หลายด้านทั้งทางชีววิทยา เคมี คณิตศาสตร์และคอมพิวเตอร์ ซึ่งก็คือ ชีวสารสนเทศศาสตร์ ทั้งนี้การศึกษาในศาสตร์นี้จะอาศัยการนำผลการทดลองจากการวิจัยในห้องปฏิบัติการ บันทึกลงในฐานข้อมูลและเมื่อต้องการออกแบบการทดลองใหม่ก็นำข้อมูลดังกล่าวมาช่วยในการวิเคราะห์ ทำนายสมมติฐาน หรือสร้างต้นแบบการทดลองใหม่ๆ ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้การใช้ชีวสารสนเทศสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายด้าน เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรม การออกแบบโมเลกุลยา รวมถึงการประยุกต์ใช้ในทางวิศวกรรเมแทบอลิก เป็นต้น
ในปัจจุบันมีนักวิจัยนำชีวสารสนเทศมาใช้เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรมเป็นอย่างมาก ทั้งทางด้านการศึกษาดีเอ็นเอบาร์โค้ดของสิ่งมีชีวิต การศึกษาฟังก์ชั่นและการแสดงออกของยีน การจัดจําแนกและการชี้เฉพาะสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตโดยเทียบความคล้ายคลึงจากลําดับเบส รวมถึงการสร้างแผนภาพต้นไม้แสดงความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตขึ้นมา ทั้งนี้การเรียนรู้พื้นฐานและความเข้าใจในการใช้ข้อมูลชีวสารสนเทศรวมทั้งจึงมีความสำคัญและเป็นเครื่องมือสู่ความสำเร็จในการทำงานของนักวิจัยทางด้านชีววิทยาโมเลกุล
ในการนี้ศูนย์นวัตกรรมทางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ร่วมกับภาควิชาชีวเคมีและจุลชีววิทยา จึงได้จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การใช้ชีวสารเทนเทศเพื่อการวิเคราะห์แผนภูมิวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ขึ้น เพื่อให้นักวิจัยได้เรียนรู้และเข้าใจในการนำเอาองค์ความรู้ชีวสารสนเทศ มาประยุกต์ใช้กับการศึกษาความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต ตลอดจนการวิเคราะห์แผนภูมิวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
ในประเด็นความร่วมมือการพัฒนาการศึกษาลำดับนิวคลีโอไทด์ของสิ่งมีชีวิตนั้น ก่อให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีและวิทยาการคอมพิวเตอร์ควบคู่กันไปด้วยจนเป็นที่มาของศาสตร์แขนงใหม่ที่ผนวกความรู้หลายด้านทั้งทางชีววิทยา เคมี คณิตศาสตร์และคอมพิวเตอร์ ซึ่งก็คือ ชีวสารสนเทศศาสตร์ ทั้งนี้การศึกษาในศาสตร์นี้จะอาศัยการนำผลการทดลองจากการวิจัยในห้องปฏิบัติการ บันทึกลงในฐานข้อมูลและเมื่อต้องการออกแบบการทดลองใหม่ก็นำข้อมูลดังกล่าวมาช่วยในการวิเคราะห์ ทำนายสมมติฐาน หรือสร้างต้นแบบการทดลองใหม่ๆ ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้การใช้ชีวสารสนเทศสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายด้าน เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรม การออกแบบโมเลกุลยา รวมถึงการประยุกต์ใช้ในทางวิศวกรรเมแทบอลิก เป็นต้น
ในปัจจุบันมีนักวิจัยนำชีวสารสนเทศมาใช้เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรมเป็นอย่างมาก ทั้งทางด้านการศึกษาดีเอ็นเอบาร์โค้ดของสิ่งมีชีวิต การศึกษาฟังก์ชั่นและการแสดงออกของยีน การจัดจําแนกและการชี้เฉพาะสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตโดยเทียบความคล้ายคลึงจากลําดับเบส รวมถึงการสร้างแผนภาพต้นไม้แสดงความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตขึ้นมา ทั้งนี้การเรียนรู้พื้นฐานและความเข้าใจในการใช้ข้อมูลชีวสารสนเทศรวมทั้งจึงมีความสำคัญและเป็นเครื่องมือสู่ความสำเร็จในการทำงานของนักวิจัยทางด้านชีววิทยาโมเลกุล
ในการนี้ศูนย์นวัตกรรมทางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ร่วมกับภาควิชาชีวเคมีและจุลชีววิทยา จึงได้จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การใช้ชีวสารเทนเทศเพื่อการวิเคราะห์แผนภูมิวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ขึ้น เพื่อให้นักวิจัยได้เรียนรู้และเข้าใจในการนำเอาองค์ความรู้ชีวสารสนเทศ มาประยุกต์ใช้กับการศึกษาความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต ตลอดจนการวิเคราะห์แผนภูมิวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
วัตถุประสงค์การอบรม
- อธิบายหลักการการใช้ชีวสารสนเทศศาสตร์ในการวิเคราะห์แผนภูมิวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
- ใช้เครื่องมือทางชีวสารสนเทศศาสตร์ในการวิเคราะห์แผนภูมิวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
- สามารถวิเคราะห์แผนภูมิวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตในการจัดจำแนกสิ่งมีชีวิต
กำหนดการ
อัตราค่าลงทะเบียน |
การชำระเงิน |
|
โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารทหารไทย
ประเภทบัญชี ออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 174-2-06587-1 ชื่อบัญชี “คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” **หมายเหตุ : เมื่อโอนเงินค่าลงทะเบียนผ่านเคาร์เตอร์ธนาคาร ในระบบของธนาคารจะพิมพ์ชื่อบัญชี เป็นภาษาอังกฤษ ดังนี้PHARMACY.CU |
วิธีการชำระเงินค่าลงทะเบียนงานประชุม
ส่งหลักฐานการชำระค่าลงทะเบียน ได้ที่ Email [email protected]
โปรดระบุด้วยว่าเป็นการอบรม ฺBio- analysis พร้อมระบุชื่อผู้เข้าร่วมอบรมลงในเอกสารการโอนเงิน
ในกรณีที่ชำระเงินค่าลงทะเบียนแล้วแต่ไม่สามารถเข้าร่วมอบรมได้ ผู้จัดขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าลงทะเบียนในทุกกรณี *ยกเว้นผู้จัดขอเลื่อนวันจัดประชุม
โปรดระบุด้วยว่าเป็นการอบรม ฺBio- analysis พร้อมระบุชื่อผู้เข้าร่วมอบรมลงในเอกสารการโอนเงิน
ในกรณีที่ชำระเงินค่าลงทะเบียนแล้วแต่ไม่สามารถเข้าร่วมอบรมได้ ผู้จัดขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าลงทะเบียนในทุกกรณี *ยกเว้นผู้จัดขอเลื่อนวันจัดประชุม