โครงการอบรมวิชาการ เรื่อง
Tackling Formulation Challenges:
Processes, Functional Excipients and Technologies
วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2561
ณ ห้อง 1002 อาคารนวัตกรรมทางเภสัชศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
|
สามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้ที่หน่วยฝึกปฏิบัติงานวิชาชีพ โทร. 02-218-8450
หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันการพัฒนาสูตรตำรับยาสามัญใหม่มีการใช้เทคโนโลยี วัตถุดิบ และเทคนิควิธีการพิเศษเข้ามาช่วยอยู่มาก ทำให้ผู้ผลิตต้องปรับตัวตอบรับให้มีความเท่าทันกันกับข้อมูลเหล่านี้ เพื่อใช้ในการพัฒนาสูตรตำรับของตนเองต่อไปในอนาคต
โดยเฉพาะยาสามัญใหม่ที่อยู่ในรูปแบบของแข็ง ที่มีกรรมวิธีการผลิตที่ต้องใช้ binder ในการช่วยให้โมเลกุลยาเกาะตัวกันเป็นรูปร่างที่สามารถนำเข้าสู่ร่างกายได้ ซึ่งในกรรมวิธีเหล่านี้ก็จะมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของตัวยาสำคัญและสารประกอบต่างๆ ในสูตร ซึ่งหากผู้ผลิตมีความรู้ความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่มากพอ ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาในการผลิตสูตรยาสามัญเหล่านี้ขึ้นมาได้ นอกจากกรรมวิธีที่ต้องใช้ binder ในการช่วยการเกาะตัวกันของตัวยาแล้ว ในสูตรยาสามัญใหม่บางตัวยังต้องเพิ่มกรรมวิธีในการเคลือบตัวยาด้วยรูปแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มความคงตัวให้กับสูตรตำรับยานั้นๆ ด้วย ซึ่งสารเคลือบ รวมทั้งเทคนิค วิธีการเคลือบในปัจจุบันก็มีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งจากคุณสมบัติของตัวยาเองและสภาพแวดล้อม เช่น ความชื้น อุณหภูมิ ดังนั้นการเรียนรู้ และพัฒนาเรื่องเทคนิค วิธีการเคลือบยาก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถยกระดับความสามารถในการคิดค้นและปรับปรุงสูตรตำรับยาให้มีความคงตัวตามมาตรฐานได้ อีกทั้งในแง่อุตสาหกรรม ผู้ผลิตก็สามารถนำความรู้และเทคนิควิธีการต่างๆ มาปรับใช้ในระดับที่ใหญ่มากขึ้น เพื่อให้เข้ากับกระบวนการผลิตและเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมต่อไป
ในการนี้ภาควิชาวิทยาการเภสัชกรรมและเภสัชอุตสาหกรรม ร่วมกับบริษัท ไวต้า (ประเทศไทย) จำกัด ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการเผยแพร่องค์ความรู้ข้างต้นให้กับเภสัชกรรวมถึงผู้มีหน้าที่ปฏิบัติงานในด้านการพัฒนาสูตรตำรับยาสามัญใหม่ ให้สามารถเตรียมเภสัชภัณฑ์ในรูปแบบของแข็งได้อย่างมีมาตรฐานรวมทั้งส่งเสริมให้เภสัชภัณฑ์มีคุณภาพที่ดีขึ้นทั้งทางด้านการนำไปทดสอบชีวสมมูลและความคงตัวของเภสัชภัณฑ์
โดยเฉพาะยาสามัญใหม่ที่อยู่ในรูปแบบของแข็ง ที่มีกรรมวิธีการผลิตที่ต้องใช้ binder ในการช่วยให้โมเลกุลยาเกาะตัวกันเป็นรูปร่างที่สามารถนำเข้าสู่ร่างกายได้ ซึ่งในกรรมวิธีเหล่านี้ก็จะมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของตัวยาสำคัญและสารประกอบต่างๆ ในสูตร ซึ่งหากผู้ผลิตมีความรู้ความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่มากพอ ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาในการผลิตสูตรยาสามัญเหล่านี้ขึ้นมาได้ นอกจากกรรมวิธีที่ต้องใช้ binder ในการช่วยการเกาะตัวกันของตัวยาแล้ว ในสูตรยาสามัญใหม่บางตัวยังต้องเพิ่มกรรมวิธีในการเคลือบตัวยาด้วยรูปแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มความคงตัวให้กับสูตรตำรับยานั้นๆ ด้วย ซึ่งสารเคลือบ รวมทั้งเทคนิค วิธีการเคลือบในปัจจุบันก็มีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งจากคุณสมบัติของตัวยาเองและสภาพแวดล้อม เช่น ความชื้น อุณหภูมิ ดังนั้นการเรียนรู้ และพัฒนาเรื่องเทคนิค วิธีการเคลือบยาก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถยกระดับความสามารถในการคิดค้นและปรับปรุงสูตรตำรับยาให้มีความคงตัวตามมาตรฐานได้ อีกทั้งในแง่อุตสาหกรรม ผู้ผลิตก็สามารถนำความรู้และเทคนิควิธีการต่างๆ มาปรับใช้ในระดับที่ใหญ่มากขึ้น เพื่อให้เข้ากับกระบวนการผลิตและเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมต่อไป
ในการนี้ภาควิชาวิทยาการเภสัชกรรมและเภสัชอุตสาหกรรม ร่วมกับบริษัท ไวต้า (ประเทศไทย) จำกัด ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการเผยแพร่องค์ความรู้ข้างต้นให้กับเภสัชกรรวมถึงผู้มีหน้าที่ปฏิบัติงานในด้านการพัฒนาสูตรตำรับยาสามัญใหม่ ให้สามารถเตรียมเภสัชภัณฑ์ในรูปแบบของแข็งได้อย่างมีมาตรฐานรวมทั้งส่งเสริมให้เภสัชภัณฑ์มีคุณภาพที่ดีขึ้นทั้งทางด้านการนำไปทดสอบชีวสมมูลและความคงตัวของเภสัชภัณฑ์
วัตถุประสงค์
เพื่อให้เภสัชกรผู้ผลิตหรือผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาสูตรตำรับยาได้เรียนรู้และนำหลักการ กรรมวิธีเทคนิคใหม่ๆ เรื่องการ binding & coating ของยาไปใช้เพื่อการพัฒนาเภสัชภัณฑ์รูปแบบของแข็งที่มีปัญหาในระดับอุตสาหกรรม
อัตราค่าลงทะเบียน
- ชำระค่าลงทะเบียนภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 ท่านละ 1,000 บาท
- ชำระค่าลงทะเบียนหลังวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 ท่านละ 1,500 บาท