การประชุมวิชาการออนไลน์
การพัฒนากลุ่มผู้ป่วย: ความพร้อมเพื่อบรรลุเป้าหมายอย่างยั่งยืน
Episode 2 "การสื่อสารกับสมาชิกในกลุ่มในการดูแลพฤติกรรมสุขภาพ
เพื่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย"
วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2564
เวลา 14.00 - 15.30 น.
ผ่านระบบออนไลน์ Zoom webinar
หลักการและเหตุผล
ระบบประกันสุขภาพในประเทศไทยประกอบด้วย 3 ระบบหลัก ได้แก่ ระบบสวัสดิการข้าราชการ ระบบประกันสังคม และระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งระบบดังกล่าวมีการบริหารจัดการโดยหน่วยงานซึ่งมีนโยบายและระบบการจ่ายเงินค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่นการจ่ายเงินของระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการใช้การจ่ายเงินตามรายบริการ เป็นระบบปลายเปิด
ระบบประกันสุขภาพในประเทศไทยประกอบด้วยสิทธิประกันสุขภาพที่มีความหลากหลายอย่างมาก ในแต่ละสิทธิยังมีเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกัน โดยปกติแล้วบุคคลจะใช้สิทธิได้เพียง 1 สิทธิในการรักษาพยาบาลแต่ละครั้งตามที่ลงทะเบียนไว้กับสถานพยาบาล (สามารถตรวจสอบได้จากสถานพยาบาลที่เข้ารับการรักษา หรือจากเว็บไซต์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติโดยใช้เลขบัตรประชาชน 13 หลัก) หากแต่นอกจากสิทธิดังกล่าวแล้วยังมีระบบประกันเสริมหรือเฉพาะกรณี เช่น ระบบประกันสุขภาพเอกชน ประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 และกองทุนทดแทนแรงงานกรณีเจ็บป่วยจากการทำงาน เป็นต้น
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆในระบบหลักประกันสุขภาพประกอบด้วย 3 ภาคส่วนหลัก ได้แก่ ผู้ประกันตน ได้แก่ ประชาชนทั่วไป ข้าราชการ หรือ กลุ่มลูกจ้างเอกชน ซึ่งเป็นผู้รับบริการในระบบประกันสุขภาพ ผู้ให้บริการ ได้แก่ หน่วยบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือ เอกชน ซึ่งมีหลากหลายสังกัด และ ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ได้แก่ กองทุนที่ดำเนินงาน 3 ระบบประกันสุขภาพสุขภาพหลัก และภาคประกันเอกชนที่ผู้ประกันตนสามารถใช้บริการโดยชำระเบี้ยประกันด้วยตนเอง ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายจะมีการกำหนดชุดสิทธิประโยชน์โดยกองทุนต่างๆ ซึ่งมีความหลากหลาย โดยมีประชากรกลุ่มเป้าหมายต่างกัน รวมถึงมีวิธีการออกแบบและการจ่ายเงินไปที่ผู้ให้บริการที่ต่างกัน รวมทั้งยังมีระบบประกันสุขภาพย่อยซึ่งทับซ้อนกับระบบประกันสุขภาพหลัก จึงก่อให้เกิดความแตกต่างระหว่างระบบ
ภายหลังนโยบายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ความครอบคลุมของการมีประกันสุขภาพเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 95 ใน พ.ศ. 2546 การขยายประกันสุขภาพแก่ประชาชนในช่วงที่ผ่านมาเกิดจากบทบาทภาครัฐเป็นหลักโดยเฉพาะสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม และกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านผู้ให้บริการ และ ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ทางฝั่งผู้ประกันตน ซึ่งเป็นผู้รับบริการยังอาจกล่าวได้ว่ามีบทบาทน้อย อย่างไรก็ตาม ทางภาครัฐก็เริ่มมีการเปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนได้มีบทบาทและช่องทางมากขึ้นในการร่วมให้ความเห็นต่อภาครัฐ ผ่านในนามกลุ่มผู้ป่วยในโรคต่างๆที่เริ่มมีการจัดตั้งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ด้วยเหตุดังกล่าว ในการที่จะช่วยส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้ง 3 กลุ่ม เพื่อให้เกิดชุดสิทธิประโยชน์ที่มีความเสมอภาค จึงมีแนวคิดในการจัดการประชุมวิชาการเพื่อให้ความรู้ แนวคิด และแนวทางปฏิบัติให้กับประชาชน และกลุ่มผู้ป่วย เพื่อให้สามารถมีความพร้อมในการมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาระบบประกันสุขภาพดังกล่าว ในการนี้ สมาคมผู้วิจัยและผลิตเภสัชภัณฑ์จึงได้การประชุมวิชาการ โดยร่วมกับหน่วยงานในภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกันตน ผู้ให้บริการ ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย และภาคการศึกษา เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ป่วยต่อไป
ระบบประกันสุขภาพในประเทศไทยประกอบด้วยสิทธิประกันสุขภาพที่มีความหลากหลายอย่างมาก ในแต่ละสิทธิยังมีเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกัน โดยปกติแล้วบุคคลจะใช้สิทธิได้เพียง 1 สิทธิในการรักษาพยาบาลแต่ละครั้งตามที่ลงทะเบียนไว้กับสถานพยาบาล (สามารถตรวจสอบได้จากสถานพยาบาลที่เข้ารับการรักษา หรือจากเว็บไซต์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติโดยใช้เลขบัตรประชาชน 13 หลัก) หากแต่นอกจากสิทธิดังกล่าวแล้วยังมีระบบประกันเสริมหรือเฉพาะกรณี เช่น ระบบประกันสุขภาพเอกชน ประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 และกองทุนทดแทนแรงงานกรณีเจ็บป่วยจากการทำงาน เป็นต้น
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆในระบบหลักประกันสุขภาพประกอบด้วย 3 ภาคส่วนหลัก ได้แก่ ผู้ประกันตน ได้แก่ ประชาชนทั่วไป ข้าราชการ หรือ กลุ่มลูกจ้างเอกชน ซึ่งเป็นผู้รับบริการในระบบประกันสุขภาพ ผู้ให้บริการ ได้แก่ หน่วยบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือ เอกชน ซึ่งมีหลากหลายสังกัด และ ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ได้แก่ กองทุนที่ดำเนินงาน 3 ระบบประกันสุขภาพสุขภาพหลัก และภาคประกันเอกชนที่ผู้ประกันตนสามารถใช้บริการโดยชำระเบี้ยประกันด้วยตนเอง ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายจะมีการกำหนดชุดสิทธิประโยชน์โดยกองทุนต่างๆ ซึ่งมีความหลากหลาย โดยมีประชากรกลุ่มเป้าหมายต่างกัน รวมถึงมีวิธีการออกแบบและการจ่ายเงินไปที่ผู้ให้บริการที่ต่างกัน รวมทั้งยังมีระบบประกันสุขภาพย่อยซึ่งทับซ้อนกับระบบประกันสุขภาพหลัก จึงก่อให้เกิดความแตกต่างระหว่างระบบ
ภายหลังนโยบายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ความครอบคลุมของการมีประกันสุขภาพเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 95 ใน พ.ศ. 2546 การขยายประกันสุขภาพแก่ประชาชนในช่วงที่ผ่านมาเกิดจากบทบาทภาครัฐเป็นหลักโดยเฉพาะสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม และกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านผู้ให้บริการ และ ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ทางฝั่งผู้ประกันตน ซึ่งเป็นผู้รับบริการยังอาจกล่าวได้ว่ามีบทบาทน้อย อย่างไรก็ตาม ทางภาครัฐก็เริ่มมีการเปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนได้มีบทบาทและช่องทางมากขึ้นในการร่วมให้ความเห็นต่อภาครัฐ ผ่านในนามกลุ่มผู้ป่วยในโรคต่างๆที่เริ่มมีการจัดตั้งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ด้วยเหตุดังกล่าว ในการที่จะช่วยส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้ง 3 กลุ่ม เพื่อให้เกิดชุดสิทธิประโยชน์ที่มีความเสมอภาค จึงมีแนวคิดในการจัดการประชุมวิชาการเพื่อให้ความรู้ แนวคิด และแนวทางปฏิบัติให้กับประชาชน และกลุ่มผู้ป่วย เพื่อให้สามารถมีความพร้อมในการมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาระบบประกันสุขภาพดังกล่าว ในการนี้ สมาคมผู้วิจัยและผลิตเภสัชภัณฑ์จึงได้การประชุมวิชาการ โดยร่วมกับหน่วยงานในภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกันตน ผู้ให้บริการ ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย และภาคการศึกษา เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ป่วยต่อไป
วัตถุประสงค์
เพื่อให้กลุ่มผู้ป่วยมีความรู้ ความเข้าใจและทักษะเกี่ยวกับการดำเนินงานกลุ่มผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิผลในประเด็นต่างๆดังนี้คือ
1. การวางเป้าหมายและแผนในการดำเนินการ ทั้งกิจกรรมและบุคลากร
2. การดูแลด้านการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยและผู้ดูแลเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
3. การติดต่อกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ได้แก่ อุตสาหกรรม บุคลากรทางการแพทย์ และหน่วยงานรัฐ
4. การหารายได้ในการดำเนินการได้อย่างยั่งยืน
1. การวางเป้าหมายและแผนในการดำเนินการ ทั้งกิจกรรมและบุคลากร
2. การดูแลด้านการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยและผู้ดูแลเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
3. การติดต่อกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ได้แก่ อุตสาหกรรม บุคลากรทางการแพทย์ และหน่วยงานรัฐ
4. การหารายได้ในการดำเนินการได้อย่างยั่งยืน
อัตราค่าลงทะเบียน |
ไม่เสียค่าลงทะเบียน
|