Clinical Pharmacy Conference 2019:
“Clinical skills and practice enhancement”
วันที่ 1 – 3 พฤษภาคม 2562
ณ โรงแรมนารายณ์ กรุงเทพมหานคร
Chulalongkorn University (CU) Faculty of Pharmaceutical Sciences
in collaboration with University of Illinois at Chicago (UIC) College of Pharmacy
เภสัชกรที่เข้าร่วมประชุมครบทั้งงานจะได้รับหน่วยกิตการศึกษาต่อเนื่อง จำนวน 16.50 หน่วยกิต
การใช้สิทธิ์แหล่งฝึกปฏิบัติงาน (สำหรับงานนี้) - จะต้องเป็นหน่วยงานที่รับฝึกนิสิตเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ชั้นปีที่ 6 เท่านั้น
หากท่านมีข้อสงสัย สามารถสอบถามหรือตรวจสอบสิทธิ์ได้ที่หน่วยฝึกปฏิบัติงานวิชาชีพ โทร. 02-218-8450
หากท่านมีข้อสงสัย สามารถสอบถามหรือตรวจสอบสิทธิ์ได้ที่หน่วยฝึกปฏิบัติงานวิชาชีพ โทร. 02-218-8450
หลักการและเหตุผล
ในปัจจุบันนอกจากเภสัชกรจะมีบทบาทในการดูแลผู้ป่วยเรื่องการเตรียมและผลิตยา การจัดซื้อจัดหายาที่มีคุณภาพ การบริหารจัดการเชิงระบบเพื่อประโยชน์ในการลดข้อผิดพลาดและเพิ่มคุณภาพของงานบริการผู้ป่วยในภาพรวมแล้ว บทบาทของเภสัชกรที่สำคัญอย่างหนึ่งคือการปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยโดยตรง (direct patient care) โดยร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมสหสาขาวิชาชีพในการปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยกลุ่มต่างๆ ที่มีความต้องการด้านยา (individual patient’s need) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในการรักษาผู้ป่วยเฉพาะราย ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ และเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
การที่เภสัชกรจะปฏิบัติงานดังกล่าวให้เกิดผลสัมฤทธิ์นั้น จำเป็นต้องอาศัยองค์ประกอบหลายส่วนร่วมกัน ทั้งความรู้ด้านเภสัชบำบัด (pharmacotherapy) ความเข้าใจเรื่องระบบการทำงาน (systems-based care and population health) การเลือกใช้ข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์อย่างเหมาะสม รวมถึงมีความสามารถในการประเมินผู้ป่วยและมีทักษะในการเขียนบันทึก และการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งต่อเภสัชกร บุคลการในทีมสหสาขาวิชาชีพที่ปฏิบัติงานร่วมกัน และผู้ป่วยที่ดูแล บนพื้นฐานของความเชื่อถือ เข้าใจ และความเคารพต่อกันของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนตามมาตรฐานและบทบาทของวิชาชีพ (professionalism)
หลักสูตรการฝึกอบรมเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม สาขาเภสัชบำบัดภาควิชาเภสัชกรรมปฏิบัติ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตระหนักดีว่าการพัฒนาทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง (continuing professional development) เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในความสามารถ (competency) ที่สำคัญของเภสัชกร จึงได้ประสานความร่วมมือทางวิชาการกับ University of Illinois at Chicago College of Pharmacy ประเทศสหรัฐอเมริกาจัดการประชุมวิชาการ Clinical Pharmacy Conference 2019 เรื่อง ‘Clinical skills and practice enhancement’ ขึ้น โดยคัดเลือกคณาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการสอน มีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษที่เข้าใจง่าย และมีประสบการณ์ทางคลินิกมายาวนาน มาถ่ายทอดความรู้เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมมีความรู้ความเข้าใจที่ทันยุคเกี่ยวกับแนวทางการดูแลผู้ป่วยโดยอาศัยหลักฐานทางวิชาการ ความรู้ทางเภสัชบำบัด โดยวิธีการทำงานอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมเข้าใจสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วย งานวิจัยและพัฒนาในคลินิกปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อวิชาชีพและประเทศชาติต่อไป
การที่เภสัชกรจะปฏิบัติงานดังกล่าวให้เกิดผลสัมฤทธิ์นั้น จำเป็นต้องอาศัยองค์ประกอบหลายส่วนร่วมกัน ทั้งความรู้ด้านเภสัชบำบัด (pharmacotherapy) ความเข้าใจเรื่องระบบการทำงาน (systems-based care and population health) การเลือกใช้ข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์อย่างเหมาะสม รวมถึงมีความสามารถในการประเมินผู้ป่วยและมีทักษะในการเขียนบันทึก และการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งต่อเภสัชกร บุคลการในทีมสหสาขาวิชาชีพที่ปฏิบัติงานร่วมกัน และผู้ป่วยที่ดูแล บนพื้นฐานของความเชื่อถือ เข้าใจ และความเคารพต่อกันของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนตามมาตรฐานและบทบาทของวิชาชีพ (professionalism)
หลักสูตรการฝึกอบรมเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม สาขาเภสัชบำบัดภาควิชาเภสัชกรรมปฏิบัติ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตระหนักดีว่าการพัฒนาทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง (continuing professional development) เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในความสามารถ (competency) ที่สำคัญของเภสัชกร จึงได้ประสานความร่วมมือทางวิชาการกับ University of Illinois at Chicago College of Pharmacy ประเทศสหรัฐอเมริกาจัดการประชุมวิชาการ Clinical Pharmacy Conference 2019 เรื่อง ‘Clinical skills and practice enhancement’ ขึ้น โดยคัดเลือกคณาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการสอน มีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษที่เข้าใจง่าย และมีประสบการณ์ทางคลินิกมายาวนาน มาถ่ายทอดความรู้เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมมีความรู้ความเข้าใจที่ทันยุคเกี่ยวกับแนวทางการดูแลผู้ป่วยโดยอาศัยหลักฐานทางวิชาการ ความรู้ทางเภสัชบำบัด โดยวิธีการทำงานอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมเข้าใจสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วย งานวิจัยและพัฒนาในคลินิกปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อวิชาชีพและประเทศชาติต่อไป
วัตถุประสงค์
1. เพื่อเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจที่ทันสมัยเกี่ยวกับแนวทางการดูแลผู้ป่วยโดยอาศัยหลักฐานทางวิชาการ ความรู้ทางเภสัชบำบัด
2. เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างเภสัชกร และคณาจารย์เภสัชกรที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วย
3. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วย
2. เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างเภสัชกร และคณาจารย์เภสัชกรที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วย
3. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วย
อัตราค่าลงทะเบียน
- ชำระค่าลงทะเบียนภายในวันที่ 31 มีนาคม 2562 ท่านละ 6,000 บาท
- ชำระค่าลงทะเบียนหลังวันที่ 31 มีนาคม 2562 ท่านละ 6,500 บาท
- ไม่รับลงทะเบียนหน้างาน
วิธีการชำระเงินค่าลงทะเบียน
วิธีการส่งหลักฐานการชำระเงิน
ในกรณีที่ชำระเงินค่าลงทะเบียนแล้วแต่ไม่สามารถเข้าร่วมอบรมได้ ผู้จัดขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าลงทะเบียนในทุกกรณี
*ยกเว้นผู้จัดขอเลื่อนวันจัดประชุม
*ยกเว้นผู้จัดขอเลื่อนวันจัดประชุม